1     2     3  


ประวัติ
 
          ชนัตถ์ปิยะอุย โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนชนัตถ์ปิยะอุย สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๓๒ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งอยู่ที่บ้านเจดีย์ทอง หมู่ที่ ๓ ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย พิกัด PC ๕๕๖๑๒๐ อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเวียงแก่น ประมาณ ๑๖ กิโลเมตร และ ห่างจากศาลากลางจังหวัดเชียงราย ประมาณ ๑๕๘ กิโลเมตร เริ่มแรกก่อนจัดตั้งโรงเรียนแห่งนี้ มีประวัติความเป็นมาพอสรุปได้ว่า ชาวบ้านได้จัดสร้างอาคารชั่วคราวขึ้น ทำการสอนโดยชุดรัศมีที่ ๘๘ ที่บ้านหนองเตา ตำบลปอ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ประมาณปี พ.ศ.๒๕๑๒ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ชุดรัศมี ๘๘ และชาวบ้านหนองเตาเผ่าเย้าเห็นว่าอยู่ที่บ้านหนองเตาสถานการณ์ไม่ปลอดภัยจากการโจมตีของผู้ก่อการร้าย ซึ่งเหตุการณ์ขณะนั้นมีการแทรกซึมอยู่ทั่วๆไป จึงได้ย้ายอพยพชาวบ้านจากหมู่บ้านหนองเตา ๒๗ หลังคาเรือน ไปอยู่ที่แห่งใหม่ซึ่งปลอดภัยจากผู้ก่อการร้ายและตั้งชื่อหมู่บ้านนี้ว่า บ้านดอนเจดีย์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนชนัตถ์ปิยะอุยในปัจจุบัน
          สำหรับที่ดินจัดสร้างโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนชนัตถ์ปิยะอุย เนื่องจากเป็นที่ดินไม่มีผู้ใดจับจองเป็นเจ้าของจึงได้แผ้วถางปลูกสร้างอาคารเรียนและได้มี นายจ้อยเซ็น แซ่ฟุ้ง ได้บริจาคที่ดินให้ จำนวน ๓ ไร่ โดยมี พันตำรวจโท สมาน เพิ่มวารี ตำแหน่ง ผู้บังคับกองร้อย ๓ ตำรวจตระเวนชายแดน เขต ๕ อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา เป็นผู้รับมอบ
          จากนั้นไม่นาน หลังจากสร้างโรงเรียนแล้วเสร็จชาวเขาเผ่าเย้าที่อพยพดังกล่าว เห็นว่าบ้านเมืองสงบเรียบร้อยแล้ว ประกอบกับมีที่ดินทำกินอยู่ที่หมู่บ้านหนองเตา จึงได้ย้ายกลับถิ่นฐานเดิม หลังจากนั้นชาวเขาเผ่าม้ง จากที่ต่างๆ จึงได้ย้ายมาอยู่แทน และเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๘ ทางราชการได้เปลี่ยนชื่อหมู่บ้านดอนเจดีย์เป็น บ้านเจดีย์ทอง
          โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนชนัตถ์ปิยะอุย ในปัจจุบันก่อตั้งขึ้นเมื่อ วันที่ ๙ มกราคม ๒๕๑๗ โดยได้รับเงินส่วนหนึ่งจาก นางชนัตถ์ ปิยะอุย ทูลเกล้าฯ ถวายโดยเสด็จพระราชกุศลแด่ สมเด็จ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านเจดีย์ทอง ซึ่งเป็นชาวไทยภูเขา เผ่าเย้าและม้ง ที่เห็นความสำคัญของการศึกษา ต้องการให้บุตรหลานมีความรู้ ความสามารถ อ่านออกเขียนได้ จึงร่วมกับ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน เขต ๕ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ จัดสร้างอาคารเรียนลักษณะถาวร ๑ หลัง ขนาด ๘.๖๐ X ๒๗.๒๐ เมตร ขนาด ๓ ห้องเรียน บ้านพักครู ๑ หลัง พร้อมห้องน้ำ และให้ชื่อโรงเรียนนี้ว่า โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนชนัตถ์ปิยะอุย (ร.ร.ตชด.บำรุงที่ ๙๙) มีครูทำการสอนครั้งแรก คือ จ่าสิบตำรวจ อุดม จุลศิริ เป็นครูใหญ่ และ จ่าสิบตำรวจ ชาญ ประพันธุ์กุล จำนวน ๒ นาย
          เมื่อ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๓ ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ ให้จัดตั้งเป็นโรงเรียนประถมศึกษาเอกเทศได้
           นอกจากจะทำการสอนตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการแล้ว โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนชนัตถ์ปิยะอุย ได้ดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ๗ โครงการ คือ ๑. โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ๒. โครงการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีน ๓. โครงการส่งเสริมคุณภาพการศึกษา ๔. โครงการนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ฯ ๕. โครงการส่งเสริมสหกรณ์ ๖. โครงการฝึกอาชีพ ๗. โครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
          ปี ๒๕๓๘ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๓๒๖ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๓๒ ได้ก่อสร้างโรงครัว จำนวน ๑ หลัง ขนาด ๓.๕๐ X ๙ เมตร จำนวน ๑ หลัง
          ปี ๒๕๓๙ วิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ ได้บริจาคเงิน จำนวน ๔๐,๐๐๐ บาท (สี่หมื่นบาทถ้วน) ก่อสร้างโรงอาหาร จำนวน ๑ หลัง
          เมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๙ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมโรงเรียนแห่งนี้ และทอดพระเนตรงานโครงการตามพระราชดำริทั้ง ๗ โครงการ ทรงปลูกต้นมะม่วงพันธุ์โชคอนันต์ จำนวน ๑ ต้น (ครั้งที่ ๑)
           เมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๙ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมโรงเรียนแห่งนี้ และทอดพระเนตรงานโครงการตามพระราชดำริทั้ง ๗ โครงการ ทรงปลูกต้นมะม่วงพันธุ์โชคอนันต์ จำนวน ๑ ต้น (ครั้งที่ ๑)
 
 
โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนชนัตถ์ปิยะอุย